จุดยืนของผม และ ทำไมผมถึงร่วมกับ #พรรคอนาคตใหม่

มีเพื่อนๆถามกันมามากว่า ทำไมผมอยู่ดี ๆ ผมถึงไปร่วมกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่งที่เราพึ่งไปขอจดจัดพรรคชื่อ “อนาคตใหม่” เมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาครับ (15 มีค. 61) ชีวิตเราก็สุขสบายอยู่แล้ว จะเอาตัวเข้าไปเกลือกกลั้วกับการเมืองทำไม
เวอร์ชั่นสั้นๆ (สำหรับใครที่มีโควตาในการอ่านไม่เกิน 8 บรรทัด) คือ ผมเชื่อว่า สภาพประเทศไทยที่เป็นอยู่ในปัจจุบันดีกว่านี้ได้ ไม่ใช่ที่เป็นอยู่ไม่ดี แต่จากประสบการณ์ที่ผมได้เห็น ได้เจอในชีวิตนี้มาเกือบ 30 ปี ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์ของผมที่เกิดขึ้นในประเทศหรือ ต่างประเทศ มันสอนให้รู้ว่า ประเทศไทยที่ดีกว่านี้เป็นไปได้ การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ และ ผมเชื่อว่าคนรุ่นใหม่มีผลประโยชน์ที่จะต้องปกป้อง นั่นคือ อนาคตของเราทุกคน
เวอร์ชั่นยาว (สำหรับคนที่มีเวลาอ่าน ผมรับรองๆได้ว่า ยาวจริง ๆ )
เรื่องที่ผมไม่มีความสุขกับประเทศนี้หลักๆเลยคือ เรื่อง “เสรีภาพ” ครับ
คำ ๆ นี้อยู่คู่กับสังคมมานานแสนนาน นานจนบางทีฟังๆไปก็เบื่อ มึงพูดไรอยู่วะ 555+ เพราะอะไรที่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้นกับคำ ๆ นี้ เพราะConceptนี้ไม่เคยเป็นจริงเลยในสังคมไทย
มนุษย์เราทุกคนเกิดมาพร้อมกับเสรีภาพอยู่แล้ว แต่เผอิญ “รัฐ” เข้ามาจำกัดเสรีภาพของเราผ่านกฎหมาย และผมไม่ชอบการจำกัดเสรีภาพของรัฐที่ทำกับประชาชนอยู่ในตอนนี้ครับ เผอิญว่าคนใน “อนาคตใหม่” ไม่พอใจกับการกระทำหลาย ๆ อย่างของระบบข้าราชการที่ทำกับประชาชนในขณะนี้เช่นเดียวกัน สิ่งที่ผมจะเขียนต่อไปนี้ เป็นจุดยืนของผมคนเดียว เพื่อนๆแต่ละคนในกลุ่ม #อนาคตใหม่ มีจุดยืนที่แตกต่างกัน แต่สิ่งที่ผมเขียนวันนี้ ถ้าจะออกเป็นนโยบายของพรรค ยังต้องผ่านการประชุมและอนุมัติของสมาชิกพรรคทุกๆคน ซึ่งขณะนี้ยังไม่มีแต่อย่างใด และอีกอย่าง อยากเขียนให้ชัดกับ “ตัวเอง” และ “สาธารณะ” ว่า ผมเชื่อในอะไรในวันแรกที่ผมเริ่มทำงานทางการเมือง
ผมเชื่อว่า เสรีภาพทำให้เกิดพื้นที่ พื้นที่ทำให้เกิด “โอกาส” โอกาสในการที่จะมีอาชีพที่ดี โอกาสในการสร้างรายได้ โอกาสในการสร้างวิถีชีวิต โอกาสในการสร้างความสุข
ผมเชื่อว่า ไม่มีรัฐบาลใดในโลกที่จะทำให้ประชาชนมีความสุขได้ทุกคน แต่ รัฐต้องให้โอกาสกับประชาชนทุกคนเท่าเทียมกัน เพราะฉะนั้น หน้าที่ที่แท้จริงของรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรับรองว่า ประชาชนทุกคนต้องมีเสรีภาพที่แท้จริงเพื่อที่ทุกคนจะได้มีโอกาสในชีวิตอย่างเต็มที่
แต่ในสภาพสังคมปัจจุบัน คนไทยทุกคนที่เกิดในแผ่นดินนี้ ล้วนถูกพรากเสรีภาพหรือจำกัดเสรีภาพ​โดยไม่มีเหตุผล เพื่อประโยชน์ของคนบางกลุ่ม ไม่ว่าทางใด ทางหนึ่ง ตั้งแต่เราเกิด จวบจนได้รับการศึกษา จนถึงการประกอบอาชีพ รวมทั้งในการใช้ชีวิตทั่วไป หรือ แม้แต่ในการเริ่มต้นและทำตามความฝัน
ของพวกนี้เริ่มกันตั้งแต่เกิดครับ คนไทยตั้งแต่เกิดก็ถูกจำกัดเสรีภาพด้วยกฎของรัฐและดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐโดยไม่คำนึงถึงประชาชน ยกตัวอย่างแรก คือ การที่เราชื่ออะไร อ่านอย่างไร รัฐไทยกลับกำหนดไว้ทุกอย่าง และการจำกัดเสรีภาพพวกนี้อยู่ใน พรบ.ชื่อบุคคลและระเบียบกระทรวงมหาดไทย ที่มีข้อจำกัดมากมาย ทั้งข้อห้ามชื่อห้ามเกิน 10 พยัญชนะ หรือ ชื่อห้ามเกินห้าพยางค์ ห้ามใช้คำบางคำ ห้ามใช้คำที่ไม่มีความหมาย ยกตัวอย่างง่ายๆ คือ ชื่อผมครับ จริงๆ แม่อยากชื่อ เด็กชายฟิลิป โปตระนันทน์ แต่ที่เขตเค้าไม่อนุญาตเพราะที่เขตอ้างว่า “ฟิลิป” เป็นชื่อของเจ้าชายฟิลิปแห่งราชวงศ์อังกฤษ ตั้งแต่นั้นก็เลยกลายมาเป็น “คริส” ถึงปัจจุบันนี้
พอเข้าโรงเรียนก็ถูกจำกัดเสรีภาพในการแต่งกาย ต้องใส่ชุดนักเรียน ต้องตัดผมตามระเบียบที่กระทรวงศึกษากำหนด นอกจากนี้ ยังถูกบังคับให้เรียนตามแบบเรียนที่คร่ำครึตามที่กระทรวงศึกษากำหนด
พอจะเข้ามหาวิทยาลัย ก็ต้องถูกบังคับให้ใส่เครื่องแบบ ถูกบังคับให้เรียนตามหลักสูตรที่สภามหาวิทยาลัยเป็นคนกำหนด นิสิตนักศึกษาไม่มีสิทธิได้เรียนในสิ่งที่เค้าอยากเรียนอย่างแท้จริง
หลังจากนั้น เมื่อเข้าสู่ชีวิตวัยผู้ใหญ่ เราถูกรัฐไทยห้ามอีกหลายๆทางที่อาจทำให้กลุ่มบางกลุ่มเสียประโยชน์ เช่น กลุ่มทุน กลุ่มวัฒนธรรมเก่าๆ เช่น ห้ามแต่งงานกับคนเพศเดียวกัน ห้ามใช้ยาสูบที่รัฐไม่อนุญาตให้ใช้ เช่น ห้ามใช้บุหรี่ไฟฟ้า ห้ามใช้สมุนไพรพื้นบ้านที่มีในภูมิภาคนี้มาแต่โบราณ เช่น กัญชา กระท่อม ห้ามประกอบอาชีพที่รัฐไทยไม่อนุญาต เช่น ต้มเบียร์ขาย ต้มเหล้าขาย ห้ามไม่ให้นวัตกรรมใหม่ ๆ เกิด เช่น ห้ามการใช้แอพพลิเคชั่นที่อำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในเรื่องเสรีภาพในการเดินทางเช่น อูเบอร์และแกรบ ห้ามเล่นหวยใต้ดินทั้ง ๆ ที่เป็นที่ชื่นชอบของคนไทยส่วนใหญ่
ในเรื่องของข้อห้ามในการประกอบอาชีพมีอยู่มากมาย เช่น กรณีของเพื่อนผมเอง กลับมาการเรียนวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์จากต่างประเทศ อยากจะเขียนแอพ e-wallet ให้คนไทยทำนองเดียวกับแอพอย่าง Venmo Paypal แต่ก็ติดข้อห้ามธนาคารของธนาคารแห่งประเทศไทยที่กำหนดทุนจดทะเบียนบริษัทที่จะขอใบอนุญาตถึง 200 ล้านบาท ข้อจำกัดเหล่านี้ทำให้เพื่อนผมไม่อาจทำฝันของคนเล็กคนนึงที่อยากจะให้คนไทยมีแอพไว้ใช้โอนเงินอย่างสะดวกสบายได้ครับ ส่วนข้อกำหนดในใบอนุญาตทำนองเดียวกัน ยังมีอยู่ในเกือบทุกอุตสาหกรรมในไทย ไม่ว่าจะเป็นการเงินการธนาคาร ธุรกิจโรงงาน ธุรกิจพลังงาน หรือบางครั้งก็อยู่ในลักษณะข้อห้ามที่ยิบย่อยที่เป็นช่องทางให้เจ้าหน้าที่ใช้เพื่อเรียกรับผลประโยชน์จากประชาชน
นอกจากการห้ามแล้ว ประชาชนไทยยังโดนบังคับอีกหลายประการ อีกด้วย เช่น ผู้ชายไทยถูกบังคับให้เกณฑ์ทหารในวัย 20 ปีบริบูรณ์จนทำให้เราเสียทรัพยากรมนุษย์จำนวนมากให้กับกองทัพที่เป็นหน่วยงานราชการที่มีประสิทธิภาพต่ำโดยไม่จำเป็น เราถูกรัฐไทยบังคับให้ใช้รถยนต์หรือจักรยานยนต์ที่ผลิตในประเทศด้วยกลไกทางภาษีจนทำให้เราต้องใช้ยานพาหนะที่แพงกว่าประเทศอื่นมาก เราถูกรัฐบังคับให้ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีราคาแพง เช่น แก๊ซโซฮอล์ ด้วยกลไกทางภาษีและกองทุนน้ำมันอีกเช่นกัน ยังไม่รวมถึง การถูกบังคับกดขี่ข่มเหงจากตำรวจที่ใช้กฎหมายจราจรที่ขาดความชัดเจนและมีอายุเกือบสี่สิบปี
นอกจากนี้ในระดับนโยบายรัฐบาล เรายังถูกบังคับให้ต้องอยู่ใน ยุทธศาสตร์ชาติ ที่ชนชั้นนำกลุ่มเล็ก ๆ เป็นคนกำหนดอีก 20 ปีเต็ม ทั้ง ๆ ที่ประชาชนไม่มีสิทธิเลือกและไม่ได้ต้องการ

กฎระเบียบ เหล่านี้ มองเผิน ๆ ภายใต้มุมมอง “ไทย” ก็แค่ว่า “ทำ ๆ ไป” “ใช้ๆไป” “ตามๆไป”
แต่พี่น้องประชาชน หารู้ไม่ว่า มีคนได้ประโยชน์จากกฎระเบียบเหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มคนและกลุ่มทุนต่าง ๆ ที่ได้ผลประโยชน์จากการจำกัดเสรีภาพเหล่านี้ เช่น
- เราต้องกินเบียร์เพียงไม่กี่ยี่ห้อจากบริษัทไม่กี่บริษัท ทั้ง ๆ ที่บริษัทเบียร์รายใหญ่เหล่านั้นก็รวยเอา ๆ
- เราต้องสูบยาสูบที่ราคาแพงและคุณภาพห่วยๆจากโรงงานของรัฐ ขณะที่ยาสูบคุณภาพดีก็มีราคาแพงเพราะภาษีที่สูง เพียงเพราะรัฐอ้างว่ามันมาจากต่างประเทศ
- เราต้องบริโภคน้ำตาลตามที่ราคาแพงกว่าราคาตลาดโลกเนื่องจากรัฐไทยต้องการปกป้องโรงงานน้ำตาลและชาวไร่อ้อยในประเทศนี้
- เราต้องใช้น้ำมันที่แพงกว่าตลาดโลกเนื่องจากเราต้องการปกป้องอุดหนุนโรงงานผู้ผลิตเอธานอล
- ดอกเบี้ยเงินกู้ที่แพงกว่าดอกเบี้ยเงินฝากอย่างมาก เพราะการผูกขาดของอุตสาหกรรมธนาคาร
- ประชาชนไทยจำนวนมากต้องเสี่ยงชีวิตใช้รถจักรยานยนต์เนื่องจากเราต้องใช้รถยนต์ที่มีราคาแพง เนื่องจากเราต้องการปกป้องโรงงานรถยนต์ของทุนต่างชาติ
- ชาวบ้านที่ถูกตำรวจกลั่นแกล้งและรีดไถเพื่อเก็บเพื่อหารายได้และเก็บส่วยส่งนาย
- ค่าเงินบาทที่ถูกแสนถูกเนื่องจากรัฐต้องการปกป้องผู้ส่งออก จนทำให้โครงสร้างของรายได้ของประเทศบิดเบี้ยว (รายได้ของประเทศมีประชาชนไทยมีส่วนแค่ 30% ทั้ง ๆ ที่ผู้ส่งออกทั้งคนไทยและต่างชาติมีรายได้ถึง 70% ของรายได้คนทั้งชาติ )
เราถูกบังคับในทุกเรื่อง แม้แต่เรื่องการรสนิยมทางเพศที่ประชาชนไทยต้องแต่งงานระหว่างเพศหญิงและชายเท่านั้นเนื่องจากกลุ่มคนบางกลุ่มที่รับไม่ได้กับความแตกต่างและความหลากหลายทางเพศของประชาชนไทย เยาวชนส่วนใหญ่ของเราไม่มีทักษะที่จะแข่งขันในโลกยุคใหม่เนื่องจากการศึกษาที่ไร้ประสิทธิภาพ เราไม่สามารถปฏิรูปการศึกษาได้เนื่องจากเราต้องปกป้องข้าราชการครูที่ตกยุคและคร่ำครึเป็นจำนวนมาก ประชาชนของเราจึงถูกสร้างให้อยู่ในกรอบที่ “ราชการ” อยากให้เป็น เราถูกบังคับให้เชื่อ แม้แต่เรื่อง ค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ ที่ประชาชนไม่ได้เป็นผู้อนุมัติ เรากล่อมและหล่อหลอมให้ประชาชนเชื่อในสิ่งที่รัฐอยากให้เป็น ประชาชนของเราถูกพรากเสรีภาพในการประกอบธุรกิจอีกหลายประการจนทำให้เราพลาดโอการในการสร้างผู้ประกอบการในหลาย ๆ บริบท เงินค่าจ้างและค่าเงินบาทที่ต่ำจนประชาชนไม่อาจมีมีชีวิตที่ดีได้ ที่ร้ายแรงยิ่งกว่าประการใดทั้งปวงคือ เราถูกจำกัดแม้แต่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เราไม่สามารถแสดงความคิดเห็นในหลาย ๆ เรื่องได้ เนื่องจากกรอบของรัฐที่มุ่งให้ประชาชนเป็นประชาชนที่คิดเหมือนกันหมด
เราอยากจะอยู่ในสังคมที่ถูกพรากเสรีภาพเหล่านี้ไปหรือ เพราะ ผมเชื่อว่า ประชาชนไทยเป็นชนชาติที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถทำมาหากิน ประกอบอาชีพได้อีกหลายอาชีพ ประชาชนสามารถแข่งขันกับชนชาติอื่นได้ “ประชาชนไทยไม่ได้โง่” อย่างเขากล่าวหา ผมเชื่อในความสามารถของประชาชนทุกคน
แต่เรากลับถูกกด และ ถูกจำกัดกรอบด้วย รัฐที่เก่าแก่และคร่ำครึ รัฐที่ไม่สามารถตามกระแสโลกได้ทัน รัฐที่มุ่งปกป้องผลประโยชน์ของคนเพียงไม่กี่กลุ่ม ด้วยต้นทุนที่แสนแพงของประชาชนในชาติ
ผมเชื่อว่าประเทศเราจะดีกว่านี้ได้ ฝันของประชาชนทุกหมู่เหล่าจะเป็นจริงได้ เพียงแค่ให้โอกาสประชาชนได้เจริญเติบโต ไม่ว่าจะในทางจิตวิญญาณ ศิลปะ เศรษฐกิจ ความสุข ขอเพียงแค่เรามีรัฐที่ไม่จำกัดกรอบเสรีภาพของเรา รัฐที่ไม่ใช่รัฐแบบอำนาจนิยมที่มุ่งปกป้องผลประโยชน์คนบางกลุ่ม โดยไม่คำนึงถึงคนส่วนใหญ่ในประเทศและอนาคตของลูกหลานไทย



หากคุณเชื่อในเสรีภาพ เชื่อในความสามารถของตัวคุณเอง เชื่อในสิทธิในการกำหนดอนาคตของตัวคุณ ขอให้มาร่วมกับผมเพื่อสังคมที่มีเสรีภาพอย่างแท้จริง

Comments

Popular posts from this blog

ล้อการเมืองของจุฬา หายไปไหน ผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟังครับ

TrueMove H ไม่น้อยหน้า Facebook กรณีเคมบริดจ์อนาลิติกา ทำข้อมูลลูกค้ารั่ว 46,000 ราย

ทำไมแท็กซี่จึงปฎิเสธผู้โดยสาร (แล้วจะแก้ปัญหายังไงดีนะ)