ล้อการเมืองของจุฬา หายไปไหน ผมมีเรื่องมาเล่าให้ฟังครับ

เนื่องจาก ขบวนล้อการเมืองของธรรมศาสตร์ทำได้ดีมากใน ในงานฟุตบอลประเพณีจุฬา มธ ในปีนี้
ตัวหุ่น “Corruptท่าน“ (เครดิต ภาพจากSanook.com)ที่สื่อถึง ผู้พิพากษาทั้งหลายที่ไปรับตำแหน่งการเมือง เปลี่ยนเป้าหมายไปสู่หนทางแห่งอำนาจ หรือ การมุขเปลี่ยนฉากหลังให้ท่านผู้นำที่กำลังฮิตในเน็ต เอาไปใส่ให้คนดูทางบ้านดู)  (เครดิตภาพ Thairath.com)




ก็เห็นหลายๆคน มีคำถามว่า


"แล้วจุฬาล่ะ?"
"เกิดอะไรขึ้นกับจุฬา"
"จุฬามีขบวนล้อการเมืองไหม"

ผมพอจะมีประสบการณ์ในเรื่องพวกนี้อยู่บ้าง จึงอยากจะมาแชร์ให้ฟังตรงนี้ครับ

เมื่อ 4 ปีที่แล้ว ตอนเรียนอยู่ที่นิติ จุฬา ปี 4 ตอนนั้นผมเป็นรองหัวหน้านิสิตฝ่ายกิจการภายนอกกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดงานที่ไป "ประมูล" มาจากส่วนกลางที่เรียกว่า อบจ. (องค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย)

ซึ่งงานอย่างงานบอลเป็นงานใหญ่มาก ก็เลย ต้องแบ่งหน้าที่กันทำ
คนไม่คุ้นเคยอาจจะไม่เข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น ในส่วนของบัตร ให้คณะสหเวชเป็นคนรับผิดชอบ งานส่วนของเนื้อหาให้อักษร รับผิดชอบ

ซึ่งในปีนั้น ด้วยความที่ว่า ผมชอบการเมืองมาก และคิดว่า นี่ล่ะโอกาสที่ใฝ่ฝันมานานแล้ว ในงานบอลปีที่ 66 ผมจึงไปประมูล ขบวนล้อการเมืองของจุฬา (ซึ่งในปีนั้นถูกเรียกว่า"ขบวนสะท้อนสังคม"  เราอยากเรียกว่า ล้อการเมืองมาก แต่ ธรรมศาสตร์ เค้าไม่ยอมให้เราใช้ชื่อ คงเพราะว่าเค้าทำแบรนมาหลายปี แล้ว จุฬาไม่เคยทำมานานมากแล้ว) โดย เราตกลงกันว่า นิติจะทำคอนเซปต์ ส่วนถาปัด จะช่วยทำหุ่นให้

ซึ่ง ปัญหาที่เกิดขึ้นก็มีเยอะครับ ประเด็นใหญ่ที่สุดที่เราพบคือ

"การเซ็นเซอร์ในจุฬามีอยู่จริง"

เราออกแบบ ทำแปลน วางแผนกันอยู่หลายรอบ แต่ทุกรอบต้องกลับไป finalize ที่อาจารย์ (ผู้บริหารจุฬา)

หลายๆปีที่ ไอเดียหลายอย่าง มักจะถูกเซนเซอร์โดย คนในคณะเอง (ที่คิดแบบว่า คณะอยู่ดีๆจะไปยุ่งกับการเมือง หาเรื่องทำไม หรือประเภท ความคิดการเมืองของคุณ ไม่ได้representคนทั้งคณะ เพราะฉะนั้น ถ้ากูเงียบ มึงต้องเงียบด้วย 55+) หรือ คนในอบจ. (ที่คิดว่า จะประจบอาจารย์ หรือไม่ก็ คิดแบบเดียวกับพวกแรก คือ จะไปหาเรื่องเดือดร้อน ทำไม)

แต่ผมโชคดีมาก ที่ปีนั้น คนในคณะหลายๆคนเอาด้วย และอบจ.ปีนั้นเห็นด้วย ทุกๆคนอยากจะเห็นจุฬา มีบทบาททางสังคมบ้าง

แต่ปรากฎว่า สุดท้าย ผมก็เจอจังๆกับตัวเองครับ 
ผู้บริหารจุฬา(อาจารย์) เรียกเข้าไปพบ ขอให้ปรับ ขอให้แก้คอนเซปต์
เพราะคิดว่า อาจแรงเกินไป ไม่มีความจำเป็นต้องศัตรูๆ บลาๆ


ตอนแรก เราอยากจะทำThemeการเมืองเต็มที่ 
(แพลนหลักๆคือ เสื้อเหลือง เสื้อแดง ทะเลาะกันจริง แต่หารู้ไม่ ว่าประเทศนี้ทหารคุม)
สุดท้าย ที่ทำออกมาได้จริงๆ เป็นTheme เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น (Freedom of expression)

ตัวอย่างที่เค้าแก้ ที่ผมจำได้ชัดๆ อย่างเช่น
ก่อนหุ่นตัวสุดท้าย ที่เป็น ท้อปบู้ตเหยียบคนเสื้อเหลืองเสื้อแดง จะออก
เราดีไซน์กันว่า ให้มีป้ายผ้า "ประชาชนต้องมาก่อน" แล้วให้ทหารถือปืนจี้ประชาชนเดินรอบสนามฟุตบอล สุดท้าย ฉากนี้ถูกห้าม พวกเราจึงพยายามทำเป็นว่า ทหารเดินตามประชาชนแล้วให้ถือปืนไขว้หลัง

ซึ่งทุกวันนี้ ผมยังกลับมาคิดอยู่ว่า 
ถ้าเราฝืน เค้าจะทำอะไรเราได้ จะไล่เราออกยังงั้นหรือ คงไม่มีทาง แล้วทำไมเราถึงยอมทำตามที่ผู้มีอำนาจสั่ง เพียงแค่เค้าบอกว่า ไม่เหมาะสม

คือ โดยสภาพ ณ เวลานั้น ปัจจัยหลายๆอย่าง มันทำผมตัดสินใจเปลี่ยน "เพียงเพราะอาจารย์(ซึ่งไม่ได้สอนผมด้วยซ้ำ)บอก"
สภาพต่างๆที่ว่านี้ อาจเป็นtypical ของเด็กจุฬา ที่กล่าวไปแล้ว
เช่น หาเรื่องใส่ตัวทำไมวะ กลัวมีปัญหา กลัวทะเลาะกับเพือน อาจารย์สั่งก็ทำๆไป ง่ายกว่า ผมเชื่อว่า ด้วยสภาพสังคมต่างๆในจุฬา มันทำให้การ"เซนเซอร์ตัวเอง" เป็นสิ่งที่ง่ายกว่า จะทำในสิ่งที่ตัวเองเชื่อ

เพราะฉะนั้น สิ่งที่นักศึกษามธ.ทำในงานบอลครั้งนี้ ผมจึงชื่นชมมาก



(ขนาดแค่ อ.สั่ง ผมยังยอมเปลี่ยน แต่ปีนี้ ทหารสั่ง ยังไม่ยอม ผมถือว่าของจริง
ผมไม่แน่ใจ ว่าขบวนล้อการเมืองของจุฬาปีนี้ ยังมีอยู่หรือไม่
ใครรู้ข่าว บอกผมหน่อยนะครับ อาจจะมี แต่สื่ออาจไม่ให้พื้นที่ก็เป็นไปได้)



ปล.1 เราไม่ได้ ยอมง่ายๆนะครับ ลองดูรูปแรกที่ หุ่นนิสิต ที่ปิดหู ปิดตา แล้วถูกพลาสเตอร์สีแดง แปะที่ปากซะก่อน (ประท้วงใส่ซึ่งๆหน้า)





ปล 2 ลองดูรูปถัดๆไป ที่เราจะสื่อว่า สังคมไทย ฟังแต่สื่อ ฟังแต่คนรวย แต่ กับความคิดเห็นของนิสิต คนจน คนด้อยโอกาส กลับไม่มีคนแคร์ (ถูกเซนเซอร์ด้วยซ้ำ ฮา)




 เรามีป้ายผ้า ประมาณว่า “เสรีภาพในการแสดงความคิดเป็นสิ่งที่สำคัญ” (มีโทรโข่งเป็นสัญลักษณ์)



อันนี้อันเด็ด (แต่ผมหารูปไม่ได้) คือ “มีแต่ควายเท่านั้นที่คิดเหมือนกันทุกตัว”
แล้วก็ต่อด้วยรูปพวกนี้ แล้วปิดท้าย ถามคนไทยว่า เรายอมได้หรือ





(รูปประเทศไทยที่เราแซว ทหาร ตรงๆว่า ภาคเหนือ อีสานแดง ภาคใต้ กลางเหลือง แต่ เขียว(ทหาร) จริงๆนั่นแหละที่ล้อมรอบประเทศไทย


ปล 3 เรายังแซวการเมืองได้อยู่นิดหน่อย อันนี้ตามที่เล่า คือ ประชาชนเดินชูมือมาก่อน แล้วมีทหารเดินตามหลัง(ไม่ได้จี้ตรงๆ แต่ยังบังคับอยู่) แล้วมีบู้ททหารที่เหยียบทั้งแดงเหลืองตามมาอีกที



ปล 4 งานบอลปี 66 ผ่านไป 4 ปีแล้ว แต่ ประเด็นในสังคมไทยยังเหมือนเดิมนะครับ เราทายแม่นซะด้วยว่า 1. ทหารคุมจริงๆ 2. สังคมที่คนไม่เห็นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น สุดท้ายก็ถูกพรากไปจริงๆครัช

ปล. สุดท้าย ขอบคุณ เพื่อนๆ น้องๆ (ทั้งนิติ และ ถาปัด) ทุกคนที่มีส่วนร่วมทำให้จุฬามีขบวนล้อการเมืองอีกครั้งในปี 2553 และถ้ามันยังมีต่อ ก็ขอให้วันเทียบมธ.เค้าให้ได้ซักวันหนึ่ง 


Comments

  1. เป้าหมายของขบวนการล้อการเมืองคืออะไรอะครับ ทำไมต้องอยากเทียบเค้าได้อะไรแบบนี้ คือเพราะว่าสนุกหรือเปล่า? อยากรู้ความคิดเห็นครับ เพราะคนนอกมองแล้วมันเหมือนจะสร้างความแตกแยกยังไงไม่รู้ครับ

    ReplyDelete
    Replies
    1. สะท้อนการเมืองในปัจจุบันครับ

      Delete
    2. เห็นแล้วใจหาย คนไทยทะเลาะกันเอง
      ปกครองแบบพ่อปกครองลูกดีไหม
      ไม่น่าเลิกทาส
      แยกล้านนาก็ดี
      คิดว่ากีก็ทำไปเถอะครับ ทำเสร็จอย่าลืมเก็บกวาดละครับ
      #RIPเกมส์การเมือง
      #ประชาชนเป็นหมาก

      Delete
    3. ผมมองว่าเป็นการแสดงออกในความคิดเห็นทางการเมืองชนิดหนึ่งครับ
      ที่ท่านผู้นำผูกขาดทีวีทุกวันศุกร์นี่ก็เป็นการแสดงออกทางความคิดเห็นทางการเมือง ไม่เห็นมีใครว่าเลยว่าสร้างความแตกแยก??

      ที่จริงพูดจาห่วยแตกกว่านักศึกษาที่ทำล้อการเมืองด้วยซ้ำ แต่ลอยหน้าลอยตาด่าคนอื่นส้รางความแตกแยกได้ แค่นี้ผมว่าก็ชัดแล้ว ว่าจริงๆแล้ว เราควรมองว่านี่เป็นเรื่องธรรมดาด้วยซ้ำ ไม่อย่างนั้นเราไม่ต้องมีการปกครองหรอกครับ เพราะทุกขั้นตอนมันเป็นการเมืองทั้งนั้น การเมืองมันกำหนดความเป็นอยู่และหนทางของคนในสังคมได้ เราที่อยู่ในสังคมจึงควรวิพากษ์วิจารณ์และล้อเลียนสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นหรือเป็นมาในสังคมเราได้ (หากคนในสังคมอื่นจะทำก็ควรทำได้เช่นกัน เพราะไม่งั้นก็ไม่ต้องมีการเมืองระหว่างประเทศ)

      Delete

Post a Comment

Popular posts from this blog

ผ่านไปแล้วครึ่งปี บทเรียนของสังคมไทยจากกรณีน้องแก้ม (ลืมไปรึยังนะ)

ทำไมแท็กซี่จึงปฎิเสธผู้โดยสาร (แล้วจะแก้ปัญหายังไงดีนะ)